วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551

Rolls-Royce Phantom Coupe บรรจบความหรู-สปอร์ต


เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างมายบัคของค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์แล้ว แบรนด์โรลส์-รอยซ์ของบีเอ็มดับเบิลยูสามารถสร้างสีสันในตลาดซูเปอร์หรูของโลกได้อย่างต่อเนื่องและดึงเงินออกจากบัญชีของเศรษฐีเป็นว่าเล่น โดยต่อจากการผลิตตัวถังซีดานและเปิดประทุน คราวนี้จะเป็นคิวของความสปอร์ตบนเรือนร่างคูเป้กันบ้าง

รถสปอร์ตรุ่นนี้จะใช้ชื่อแบบเรียบง่ายว่า แฟนธอม คูเป้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงรากเหง้าและพื้นฐานในการพัฒนาว่ามาจากซีดานระดับหรูรุ่นแฟนธอมที่เปิดตัวในปี 2003 และตัวรถก็เป็นผลผลิตมาจากโปรเจ็กต์ต้นแบบที่เคยสร้างความฮือฮาบนเวทีมอเตอร์โชว์เมื่อปี 2006 มาแล้วอย่างรุ่น 101EX ซึ่งถูกนำมาปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมของลูกค้าระดับหรูทั่วโลก

เมื่อนับดูแล้ว คูเป้จะเป็นตัวถังที่ 3 ต่อจากซีดานที่มีทั้งรุ่นฐานล้อธรรมดาและฐานล้อยาว และดรอปเฮด คูเป้ซึ่งเป็นตัวถังเปิดประทุน ในยุคของโรลส์-รอยซ์ที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบีเอ็มดับเบิลยูซึ่งเทคโอเวอร์กิจการมาตั้งแต่ปี 1998 และจัดการแบกตัวออกจากเบนท์ลีย์รวมถึงย้ายโรงงานผลิตจากเมืองครูว์มาอยู่ที่กู๊ดวูด ประเทศอังกฤษในปี 2003


แน่นอนว่าบนตัวถังแบบ 2 ประตูที่มีความยาว 5,609 มิลลิเมตรและระยะฐานล้อ 3,320 มิลลิเมตร (สั้นกว่ารุ่นแฟนธอม 250 มิลลิเมตร) รายละเอียดของรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในถูกปรับปรุงมาจากแฟนธอม ซีดาน ซึ่งก็รวมถึงลักษณะของการเปิดประตูทั้ง 2 บานเพราะแทนที่จะเปิดเหมือนกับรถยนต์ปกติ ในรุ่นคูเป้กลับเปิดแบบง้างออกจากทางด้านหน้าโดยที่บานพับของประตูอยู่กับเสา B-Pillar แทนที่จะเป็นเสา A-Pillar

ขณะที่ตัวถังด้านท้ายออกแบบใหม่ เน้นความลงตัวและประโยชน์ใช้สอยในการใช้งาน โดยสามารถเปิดได้ทั้งฝากระโปรงหลังและชิ้นส่วนตัวถังด้านท้ายยังสามารถเปิดห้อยลงมาเหมือนกับฝากระบะท้ายของปิกอัพเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระ ส่วนความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 395 ลิตรมากพอสำหรับบรรทุกถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ถุงอย่างสบายๆ

ใครที่คาดหวังจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงสำหรับภายในและเครื่องยนต์คงต้องผิดหวัง เพราะว่ารายละเอียดของห้องโดยสารถูกออกแบบโดยอิงกับสไตล์เดียวกับแฟนธอมเน้นความหรูมากกว่าความสปอร์ต และตกแต่งด้วยลายไม้เป็นหลัก พร้อมกับติดตั้งเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมด้วยระบบเสียง Logic7TM จาก Lexincon ส่วนเบาะหลังซึ่งสำหรับรองรับผู้โดยสารอีก 2 คนออกแบบให้ตัวเบาะมีลักษณะเป็น Loung Seat คล้ายกับโซฟามีความกว้างขวางและสะดวกสบายไม่ต่างจากเบาะนั่งด้านหน้าเลย


สำหรับเครื่องยนต์ก็ยังยึดมั่นอยู่กับบล็อกเบนซินวี12 ทวินแคม 48 วาล์ว 6,750 ซีซีที่เปิดตัวครั้งแรกกับแฟนธอม แต่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นอีกนิดด้วยการใช้ระบบจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง หรือ Direct Injection และระบบวาล์วแปรผันมาใช้ทำให้ตอบสนองที่ทันใจด้วยแรงบิดซึ่งถูกถ่ายทอดออกมามากถึง 75% ในรอบต่ำตั้งแต่ 1,000 รอบต่อนาที

ในเรื่องของสเปกนั้น เครื่องยนต์รุ่นนี้มีกำลังสูงสุดที่ 453 แรงม้า ที่ 5,350 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 73.4 กก.-ม. ที่ 3,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และใช้เวลาเพียง 5.8 วินาทีในการแบกตัวถังที่มีน้ำหนักถึง 2,590 กิโลกรัมให้แล่นทะยานจากจุดหยุดนิ่งสู่ระดับความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่กฎหมายของอียูกำหนดเอาไว้

นอกจากความหรูแล้ว โรลส์-รอยซ์ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยครบครัน ทั้งระบบควบคุมการทรงตัวแบบ DSCทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อรวมถึงยางแบบรันแฟล็ต ซึ่งยังสามารถแล่นต่อไปได้แม้ยางแบนอีก 160 กิโลเมตรด้วยความเร็ว 80ท กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนในด้านความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ยังไม่มีการระบุออกมา ซึ่งแม้ว่าตรงนี้ลูกค้าที่เป็นเศรษฐีจะไม่ค่อยสนใจเท่าไร แต่จากการเปิดเผยคร่าวๆ ของทางโรลส์-รอยซ์ระบุว่า ถังน้ำมันจำนวน 100 ลิตรของรุ่นคูเป้สามารถแล่นได้ 630 กิโลเมตร เท่ากับว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.3 กิโลเมตรต่อลิตรถือว่าไม่เลวเลยสำหรับรถยนต์ที่ใหญ่ทั้งขนาดตัวถังและเครื่องยนต์ขนาดนี้

โรลส์-รอยซ์จะนำแฟนธอม คูเป้ออกเปิดตัวครั้งแรกในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2008 ระหว่างวันที่ 6-16 มีนาคมนี้ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และทางไลน์ผลิตที่โรงงานกู๊ดวูดจะเริ่มเดินเครื่องทำงานทันทีเพื่อให้ทันกับออร์เดอร์จากลูกค้าที่คาดว่าจะมีมากในระดับหนึ่ง แม้ว่าราคาของตัวรถจะยังไม่มีการเปิดเผยออกมาเลยก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น: